ยิงเร็วสุด ฟุตบอลโลก 2022 เดวีส์

ยิงเร็วสุดฟุตบอลโลก 2022 “เดวีส์” ทำประตูประวัติศาสตร์ให้ “แคนาดา” ในเวิลด์คัพ

เปิด 5 ประตูเร็วสุดใน ฟุตบอลโลก 2022 หลัง อัลฟอนโซ เดวีส์ แซงขึ้นที่ 1 จากประตูแรกในประวัติศาสตร์ของ แคนาดา ในเวิลด์คัพ 2 สมัย วันที่ 27 พ.ย. 2565 อัลฟอนโซ เดวีส์ ปีกซ้ายฝีเท้าจัดจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิก สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้เล่นคนแรกของทีมชาติแคนาดา ที่ทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย หลังโหม่งทำประตูขึ้นนำ ทีมชาติโครเอเชีย 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 (เวลาจริง 1 นาที 7 วินาที) ในฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มเอฟ ก่อนแพ้ 1-4 ตกรอบเป็นทีมที่ 2 ต่อจาก กาตาร์ เจ้าภาพ

ประตูนี้นับว่าเป็นประตูแรกในประวัติศาสตร์ของทีมชาติแคนาดา จากการเข้าร่วมฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย แค่เพียงสมัยที่ 2 หลังจากทีแรกในปี 1986 หรือเมื่อ 36 ปีที่แล้ว ขุนพล “เมเปิลส์” แพ้รวด 3 นัดในกลุ่มซี (แพ้ ฝรั่งเศส 0-1 / แพ้ ฮังการี 0-2 / แพ้ สหภาพโซเวียต 0-2) ก่อนที่จะพ่าย เบลเยียม ด้วยสกอร์ 0-1 ในฟุตบอลโลก 2022 นัดแรก กลุ่มเอฟ

นอกจากนี้ อัลฟอนโซ เดวีส์ ยังกลายเป็นผู้ทำประตูเร็วที่สุดอันดับ 1 ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ โดย 5 อันดับแรก มีดังนี้

1. อัลฟอนโซ เดวีส์ นาทีที่ 2 (กลุ่มเอฟ แคนาดา แพ้ โครเอเชีย 1-4)

2. โคดี กัคโป นาทีที่ 6 (กลุ่มเอ เนเธอร์แลนด์ เสมอ เอกวาดอร์ 1-1)

3. เคร็ก กูดวิน นาทีที่ 9 (กลุ่มดี ออสเตรเลีย แพ้ ฝรั่งเศส 1-4)

4. ลิโอเนล เมสซี จุดโทษ นาทีที่ 10 (กลุ่มซี อาร์เจนตินา แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2)

5. ดานี โอลโม นาทีที่ 11 (กลุ่มอี สเปน ชนะ คอสตาริกา 7-0)

ฟุตบอลโลก 2022

ยิงเร็วไม่ช่วย! โครเอเชีย รัว 4 ลูก พลิกแซงส่ง แคนาดา ตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022

แคนาดา ได้ประตูออกนำเร็วที่สุดของทัวร์นาเมนต์ ทว่าไม่ดีพอ โดน โครเอเชีย รัวไม่ยั้ง 4 ลูก พลิกแซงคว้าแชมป์ ลุ้นเข้ารอบในการแข่งขันนัดสุดท้ายที่จะเจอกับ เบลเยียม
ศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2565 คู่เวลา 23.00 น. ที่คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม เมืองอัล รายยาน ประเทศกาตาร์ เป็นเกมรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กลุ่มเอฟ โครเอเชีย ทีมอันดับ 12 ของโลก ที่เปิดฉากสนามด้วยการเสมอ โมร็อกโก 0-0 เจอกับ ทีมชาติแคนาดา อันดับ 41 ของโลก ที่นัดแรก แพ้เบลเยียม 0-1

เกมนี้ โครเอเชีย มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย โดมินิก ลิวาโควิช : โยซิป ยูราโนวิช, โยซิป ยูราโนวิช, ยอสโก กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา : ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาชิช : มาร์โค ลิวายา, อังเดร ครามาริช, อิวาน เปริซิช

ขณะที่ แคนาดา มาในระบบ 3-4-3 ประกอบด้วย มิลาน บอร์ยาน : อลิสแตร์ จอห์นสตัน, สตีเวน วิตอเรีย, คามาล มิลเลอร์ : ริชี ลาเรีย, อทิบา ฮัตชินสัน, สตีเฟน อุสตากิโย, อัลฟอนโซ เดวีส์ : เทจอน บูคาแนน, ไคล์ ลาริน, โจนาธาน เดวิด

เริ่มเกมไม่ถึง 2 นาที แคนาดา ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว ในจังหวะบุกขึ้นมาทีแรก เทจอน บูคาแนน ได้บอลขึ้นมาทางซ้าย ก่อนที่จะบรรจงเปิดเข้าไปในจุดโทษ อัลฟอนโซ เดวีส์ สอนเข้าไปโหม่งจ่ายบอลเข้าประตูไป ให้แคนาดา ออกนำ 1-0 เป็นประตูแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลก ของประเทศแคนาดา และนับเป็นประตูที่เร็วที่สุดที่เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลก หนนี้ด้วย

หลังจากเสียประตู โครเอเชีย พยายามตั้งเกมบุกหวังทวงประตูคืน ทว่านาทีที่ 20 แคนาดา ได้ส่วนเร็วขึ้นมาทางขวา ทจอน บูคาแนน ดึงบอลเข้าไปในจุดโทษ ก่อนที่จะแทงต่อไปให้สหายแต่ยังไปติดแนวรับ โครเอเชีย

แล้วหลังจากนั้นนาทีที่ 26 โครเอเชีย บุกขึ้นมาตรงกลาง มาร์ติน เออร์ลิช จ่ายทะลุไปถึง อังเดร ครามาริช หลุดเข้าไปในจุดโทษ ก่อนที่จะยิงเข้าไป ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล่ำหน้าไปก่อนหน้าที่ผ่านมาแล้ว

แล้วหลังจากนั้นเกมเป็นของโครเอเชีย นาทีที่ 36 อิวาน เปริซิช ได้บอลหน้าจุดโทษ แคนาดา จ่ายทะลุเข้าไปในจุดโทษ บอลไปถึง อังเดร ครามาริช หลุดเข้าไปยิงไม่พลาด ให้ทีมตามตีเสมอ 1-1

โครเอเชีย รัว4 ลูก พลิกแซงส่งแคนาดา

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โครเอเชียมาได้ประตูขยับหนี 2-1 ในจังหวะ โยซิป ยูราโนวิช

ส่งบอลให้ มาร์โค ลิวายา ซัดจากหน้าจุดโทษ บอลพุ่งเรียดแทงตาข่ายเด็ดขาด ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ยังเป็นโครเอเชีย ครอบครองบอลได้มากกว่า นาทที่ 54 ได้บุกขึ้นมา ลูกา โมดริช พาบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนที่จะจ่ายแม้กระทั่ง มาเตโอ โควาชิช ได้ยิง บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือ ผู้เฝ้าประตูแคนาดา

แล้วหลังจากนั้นความพยายามของ โครเอเชียสำเร็จ นาทีที่ 70 เมื่อได้ประตูขยับหนี 3-1 ในจังหวะ อิวาน เปริซิช ได้บอลริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดไปที่เสาไกล บอลไปถึง อังเดร ครามาริช

ช่วงต่อเวลาพิเศษบาดเจ็บ นาที 90+4 กองหลัง แคนาดา พลาด มิสลาฟ ออร์ซิช ได้โอกาสควบบอลหลุดเดี่ยว ก่อนที่จะใจกว้างส่งให้ ลอฟโร มาเยอร์ ยิงเข้าไปง่ายๆโครเอเชียจึงปิดเกมด้วยชัย 4-1

ช่วงเวลาที่เหลือ ถึงแม้แคนาดา จะพยายามเปิดเกมรุกหวังทวงประตูคืน ทว่าโครเอเชียก็ยังสวนกลับได้อย่างน่าสยดสยอง สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม โครเอเชีย เอาชนะ แคนาดา 4-1 เก็บเพิ่ม เป็น 4 ยังได้ลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้าย ที่จะลงสนามเจอ เบลเยียม ในวันที่ 1 ธ.ค.65 เวลา 22.00 น. ขณะที่ แคนาดา พ่าย 2 เกมรวด ไม่เข้ารอบเป็นที่แน่ๆแล้ว แม้จะเหลือเกมอีก 1 นัดก็ตาม